superruay789

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ มีคำถามมากมายในโลกนี้ที่ยังไม่มีคำตอบ สิ่งก่อสร้างที่ยังไม่ถูกค้นพบหรือความพิศวงของสิ่งต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจากความสามารถในการสร้างของมนุษย์และสิ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น สิ่งเหล่านี้บางอย่างมีประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง วันนี้เอ็กซ์พีเดียขอนำเสนอ เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคโบราณ

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

1.สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ The Great Pyramid of Giza ประเทศอียิปต์

มหาพีระมิดแห่งกิซ่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคโบราณ ที่ไม่ว่าจะหาคำตอบอย่างไรก็ยังมีปริศนาให้ถามอยู่ทุกย่างก้าว หากกระบวนการสร้างโครงสร้างภายใน รวมถึงความลับใต้พีระมิดที่ยังเป็นคำถามที่รอคำตอบ มหาพีระมิดแห่งกิซาสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์อียิปต์โบราณ แต่ด้วยชาวอียิปต์มีพิธีกรรมหลังความตายที่แตกต่างจากชาติอื่น กล่าวคือ เมื่อกษัตริย์สวรรคตก็จำเป็นต้องมีผู้ติดตาม 

รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ที่จะใช้ในชาติหน้า ดังนั้น ชาวอียิปต์จึงฝังผู้ติดตามและทรัพย์สินของกษัตริย์ไว้ในพีระมิดด้วย ซึ่งมหาพีระมิดแห่งกีซาถูกใช้เป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์เชอปส์ (CHEOPS) หรือคูฟู ซึ่งพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้นเอง มหาพีระมิดแห่งกิซ่า ประกอบด้วย 3 พีระมิด ได้แก่ 1. พีระมิดคูฟู หรือ มหาพีระมิดแห่งกิซา 2. พีระมิดแห่งคาเฟร ตรงกลาง 3. เมนคูเร มีขนาดเล็กที่สุด

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

2.Hanging Gardens of Babylon ประเทศอิรัก

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ผลักดันให้มนุษย์สร้างสิ่งต่างๆ มากมาย รวมทั้งสวนลอยแห่งบาบิโลน สวนแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ 600 ปีก่อนคริสตกาล โดยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลน ผู้ซึ่งสร้างให้ราชินีเซมิรามิส มเหสีของเขา สวนลอยแห่งบาบิโลนตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวเยอรมัน หลักฐานของสวนลอยแห่งบาบิโลนมีบันทึกไว้ในสมัยโบราณเท่านั้น วันนี้สวนยังคงอยู่ในสภาพปรักหักพัง อย่างไรก็ตามทางประเทศอิรักได้บูรณะสวนลอยน้ำแห่งนี้ให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมโดยจัดเป็นส่วนต่างๆ ใกล้เคียงกับสถิติเมื่อ 600 ปีก่อนคริสตกาล ทั้งผังเมืองบาบิโลน อาคาร วัฒนธรรมต่างๆ. สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอิรักเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

3.Statue of Zeus at Olympia ประเทศกรีซ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้า เทวดา ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาตั้งแต่อดีต เทพเจ้ากรีกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ Zeus ซึ่งถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งสามโลก ปล่อยให้เป็นสวรรค์ โลก และนรก จนกระทั่งชาวกรีกสร้างรูปปั้นเพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้าองค์นี้ รูปปั้นซุสแห่งโอลิมเปียเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคโบราณ ทำจากไม้ ประดับด้วยทองคำและงาช้าง เทวรูปประทับนั่งบนฐานกว้าง 10.30 เมตร สูงประมาณ 12 เมตร 

พระหัตถ์ซ้ายถือคทา พระหัตถ์ขวาประคองไนกี้ เทพีแห่งชัยชนะ มีเครื่องประดับทองคำบริสุทธิ์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสต์ศักราช เทวรูปนี้ประดิษฐานอยู่ในวิหารแห่งซุสในโอลิมเปีย ประเทศกรีซ น่าเสียดายที่รูปปั้นนี้ถูกทำลายด้วยไฟในปี ค.ศ. 475 วันนี้ไม่เหลือชิ้นไหนแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ แต่กรีซก็ยังถือว่าเป็นประเทศที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของเทพเจ้า นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมมากมายรวมถึงนักปรัชญาที่มีชื่อเสียงในประเทศนี้

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

4.Temple of Artemis ประเทศตุรกี

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกตามความเชื่อของพรานโบราณ สมัยก่อนก่อนออกไปล่าสัตว์ต้องอธิษฐานต่อเทพเจ้า เช่น อาร์ทิมิส เทพเจ้าแห่งการล่าและพระจันทร์ นอกจากจะเป็นเทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์และความมั่งคั่งแล้ว นักล่ายังอธิษฐานต่อเทพเจ้าอาร์เทมิสเพื่อขอโชคลาภและนำสัตว์จำนวนมากกลับมาด้วย วิหารเทพีอาร์เทมิสเป็นวิหารขนาดใหญ่ สร้างด้วยหินอ่อน เป็นพระราชประสงค์ของกษัตริย์ลิเดีย (Lydia) ที่จะสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้าอาร์เทมิส มีรูปปั้นเทพเจ้าอาร์เทมิสประดับอยู่ภายใน แต่ภายหลังถูกทำลายโดยชาวกอธแห่งเยอรมนีซึ่งโจมตีในปี 1348 ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

5.The Mausoleum at Halicarnassus ประเทศตุรกี

หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับกษัตริย์ผู้สร้างปราสาทสำหรับภรรยาอันเป็นที่รักของเขาหรือสุสานสำหรับภรรยาผู้ล่วงลับของเขา แต่ในทางกลับกัน หลุมฝังศพของ Halicarnassus หนึ่งใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคโบราณนี้ นี่คือหลุมฝังศพที่ราชินีอาร์เทมีเซียสร้างขึ้นหลังจากสวรรคตของสามี สุสาน Halicarnassus เป็นสุสานขนาดใหญ่ของกษัตริย์ Mosolus แห่ง Lycia ในเอเชียไมเนอร์ ตั้งอยู่ที่ Halicarnassus ประเทศตุรกี ความยิ่งใหญ่ของสุสานนี้มีบันทึกว่าสุสานมีความสูง 140 ฟุต ซึ่งเทียบเท่ากับอาคาร 14 หลัง ฐานโดยรอบมีความยาว 460 ฟุต ซึ่งใหญ่โตมาก น่าเสียดายที่สุสานแห่งนี้พังทลายลงระหว่างเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในศตวรรษที่ 12-13 และหลงเหลือไว้เพียงความยิ่งใหญ่ในอดีตเท่านั้น

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

6.Colossus of Rhodes ประเทศกรีซ

การค้าขายทางเรือในสมัยโบราณถือเป็นการขนถ่ายสินค้าที่สะดวกและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ดี กรีกในอดีตจึงได้สร้างเทพอพอลโลจำลองขึ้น เป็นตัวแทนของแสงสว่างและดวงอาทิตย์ ยืนคร่อมทางเข้าปากอ่าวของเกาะโรดส์ รูปปั้นที่ยิ่งใหญ่แห่งโรดส์ทำจากทองสัมฤทธิ์ เป็นเทวรูปของเทพอพอลโลแห่งดวงอาทิตย์ สร้างโดยชาร์ลส เดอ ลินดอส เขาสูงประมาณ 33 เมตร ถือตะเกียงในมือขวา ยืนกางขาที่ปากอ่าวเพื่อให้เรือผ่านได้ 

แต่ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวเมื่อ 226 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 10 ส่วนที่เหลือถูกขายให้กับชาวเมืองซาราเซ็นส์เพื่อทำอาวุธสงครามครูเสด ปัจจุบันไม่หลงเหลือรูปปั้นองค์ใหญ่นี้แล้ว แต่สถานที่มหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกกลับได้รับการบูรณะให้สวยงามน่าเที่ยว ตลอดจนทิวทัศน์ปากแม่น้ำของเกาะโรดส์ในทะเลอีเจียน ที่รอเราไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งหนึ่งในชีวิต

สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ

7.Lighthouse of Alexandria ประเทศอียิปต์

คู่มือสำหรับนักเดินเรือที่ไร้ทิศทางในยามค่ำคืน เพื่อให้เข้าโจมตีเป้าหมายได้ง่ายหรือใช้เป็นแนวหน้าในการทำสงครามกับข้าศึกในทะเล ในสมัยของ อเล็กซานเดรีย เคยเป็นประภาคารแห่งฟารอส ประภาคารฟารอสแห่งอเล็กซานเดรีย เป็นประภาคารหินอ่อนเก่าแก่บนเกาะฟารอสในอเล็กซานเดรีย โครงสร้างหินอ่อนสีขาวเป็นทรงกระบอกสูง และแกะสลักเป็นลวดลายต่าง ๆ อย่างสวยงาม

ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 20 ปี ด้านบนมีโคมขนาดใหญ่สำหรับปล่อยควันในตอนกลางวันและใช้เป็นไฟส่องสว่างในตอนกลางคืน ซึ่งสว่างจนมองเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้ ประภาคารของ Alexandria Lighthouse ปัจจุบันทรุดโทรมอยู่ใต้ทะเลหลังจากการยึดครองเมืองของชาวอาหรับ แต่เสน่ห์ของที่นี่ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของอียิปต์